เพจสายไหมฯ เตรียมพาผู้เสียหายร้องต่อ สคบ. ถูกโชว์รูมแห่งหนึ่งในเมืองโคราชนำทะเบียนไปจำนำ ลูกค้าถูกตร.จับฐานนำรถไม่จดทะเบียนมาใช้
นายณัฐ ฟองอ่อน อายุ 30 ปี พร้อมผู้เสียหายอีก 5 ราย นำเอกสารเดินทางเข้าร้องเรียนกับ นายนิรันดร์ เกแง้ว ทีมงานเพจสายไหมต้องรอด หลังได้ตัดสินใจออกรถที่โชว์รูมแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา แต่พอออกได้ประมาณสองเดือนกลับนำรถไปจดทะเบียนไม่ได้
พอทวงถามกับทางโชว์รูมก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด จนกระทั่งผู้เสียหายได้ไปถามกับไฟแนนซ์ว่าทำไมถึงจดทะเบียนไม่ได้ จึงมาทราบภายหลังว่ารถที่ออกมานั้นถูกทางเจ้าหน้าที่ในโชว์รูมนำเล่มไปจำนำกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่ง จึงทำให้ตอนนี้รถไม่สามารถจดทะเบียนได้จึงกลายเป็นรถเถื่อน
โดยผู้เสียหายเล่าให้ฟังว่า ได้ออกรถเมื่อประมาณเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว หลังจากออกได้ทางโชว์รูมก็บอกว่าใช้ระยะเวลาไม่เกินสองเดือนก็จะสามารถนำเล่มรถไปจดทะเบียนได้ แต่พอครบสองเดือน สุดท้ายรถก็จดทะเบียนยังไม่ได้ พอทวงถามกับทางเจ้าหน้าที่โชว์รูมก็ถูกบ่ายเบี่ยง
โดยให้เหตุผลว่า เอกสารไม่ครบบ้าง หรือพนักงานคนที่ดูแลยังไม่ว่างบ้าง จนเวลาผ่านไปหลายเดือนรถก็ยังไม่สามารถจดทะเบียนได้ซึ่งตนเองและผู้เสียหายคนอื่นๆ ก็ยังผ่อนจ่ายอยู่ทุกเดือน
จนสุดท้ายทางกลุ่มผู้เสียหายได้โทรไปสอบถามกับไฟแนนซ์ว่าเพราะเหตุผลอะไรที่ซื้อมายังไม่สามารถจดทะเบียนได้ จนได้คำตอบจากไฟแนนซ์ว่าทางเจ้าหน้าที่ในโชว์รูมได้นำเล่มรถไปจำนำกับสถาบันการเงินแห่งหนึ่งเอาไว้แล้ว จึงทำให้รถที่ผู้เสียหายออกมาไม่สามารถนำไปจดทะเบียนได้และกลายเป็นรถเถื่อน มิหนำซ้ำทุกวันนี้ก็เอาออกมาขับขี่บนท้องถนนไม่ได้ เพราะเอามาขับแล้วก็ถูกตำรวจจับและโดนใบสั่งฐานความผิดนำรถไม่จดทะเบียนมาขับขี่
ตอนนี้ผู้เสียหายหลายรายเดือดร้อนหนักมากเพราะส่วนใหญ่แล้วทำงานเป็นพ่อค้าแม่ค้ากันหมด และรถคันนี้ก็เพิ่งออกมาคันแรกด้วยน้ำพักน้ำแรง ดังนั้นจึงอยากให้ทางโชว์รูมออกมารับผิดชอบ แต่ก่อนหน้านี้ทางโชว์รูมก็บ่ายเบี่ยงว่า คนที่ก่อเรื่องตอนนี้หายเข้ากลีบเมฆไปแล้ว จึงได้นำเรื่องมาร้องเรียนกับทางเพจสายไหมต้องรอด
สำหรับเรื่องนี้ทางทีมงานเพจสายไหมต้องรอดบอกว่า ถือว่าเป็นเรื่องใหม่ที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน เพราะทางโชว์รูมที่ผู้เสียหายซื้อรถสามารถนำเล่มรถมาให้ผู้เสียหายได้หนึ่งเล่ม และสามารถนำอีกเล่มไปจำนำกับสถาบันการเงินได้
โดยส่วนตัวคาดว่าทางเจ้าหน้าที่โชว์รูมน่าจะมีการออกทะเบียนรถเป็นสองเล่ม โดยเล่มหนึ่งนำมาให้ผู้เสียหาย และอีกเล่มนำไปจำนำเพื่อเอาเงินมาใช้เอง ซึ่งตอนนี้เท่าที่ได้รับการประสานมามีผู้เสียหายในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมากว่า 18 รายแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ทางทีมงานเพจสายไหมต้องรอดจะพาผู้เสียหายนำเรื่องไปร้องเรียนกับทางสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ สคบ. เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทางผู้เสียหาย