“หมอตุลย์” ใส่ชุดดำไว้อาลัยกรมราชทัณฑ์ พร้อมยื่นหนังสือถึง แพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ กรณีการรักษาตัวของ “ทักษิณ” หลังสังคมต่างตั้งคำถามป่วยจริงหรือ?
นายแพทย์ตุลย์ สิทธิสมวงศ์ แกนนำกลุ่มคนเสื้อหลากสี เดินทางมายื่นหนังสือถึง พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ นายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ ในกรณีการ รับตัวนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ไว้รักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งวันนี้นายแพทย์ แต่งกายมาด้วยชุดสีดำ เพื่อไว้อาลัยต่อกรมราชทัณฑ์ และขบวนการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
โดย น.พ.ตุลย์ เผยว่า ที่มาวันนี้เพื่อขอให้โรงพยาบาลตำรวจ และกรมราชทัณฑ์ดำเนินการกับข้อกังขาที่สังคมตั้งคำถามให้หายไปทั้งหมด อย่างอาการป่วยนั้นหนักจริงหรือไม่ เพราะถ้าอาการหนักจริงก็เห็นด้วยที่ต้องอยู่ในโรงพยาบาลตำรวจ และมองว่าหากส่งไปโรงพยาบาลเอกชน อย่างโรงพยาบาล พระราม 9 คิดว่าเป็นเรื่องที่แปลกมากเพราะโรงพยาบาลอื่น ๆ ก็สามารถรักษาอาการป่วยของนายทักษิณได้เช่นกัน
เมื่อถามว่าเชื่อหรือไม่ว่า นายทักษิณ มีอาการป่วยทั้ง 4 โรคจริง ๆ น.พ.ตุลย์ เผยว่า เชื่อว่าป่วยจริง แต่ยังมีนักโทษอื่น ๆ ที่ป่วยด้วย 4 โรคนี้จำนวนมากเช่นกัน แต่ก็ได้รับการรักษาอยู่ที่เรือนจำ
มองว่ากรณีนี้มีเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลมากมายแต่ไม่สามารถฟันธงได้ว่าสิ่งที่ถูกต้องคืออะไร เพราะเป็นข้อมูลความลับของผู้ป่วย ตนทำได้เพียงสันนิษฐานตามข้อมูลที่ปรากฏต่อสาธารณะ
เมื่อถามว่าเชื่อหรือไม่ว่านายทักษิณ รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ น.พ.ตุลย์ เผยว่า น่าจะอยู่ หากไม่อยู่ก็คงโดน ม.157 กันระนาวแน่นอน และหากให้มีแพทย์จากหน่วยงานอื่นเข้าร่วมสังเกตการรักษานายทักษิณ อย่างที่กลุ่ม คปท. เสนอไปนั้น จะเข้าร่วมหรือไม่ น.พ.ตุลย์ เผยว่า ไม่เข้าร่วม และไม่จำเป็น เพราะตนไม่ใช่แพทย์อายุรกรรมโรคหัวใจ หรือ ปอด ที่มาเรียกร้องเพราะพูดแทนใจกับข้อกังขาของคนไทยทั้งประเทศ เมื่อนายทักษิณ กลับมารับโทษ ก็ควรได้รับการดำเนินคดีตามมาตรฐานเดียวไม่ควรได้รับสิทธิเหนือผู้อื่น
นอกจากนี้ น.พ.ตุลย์ ยังมี 3 ข้อเรียกร้องต่อ รพ.ตำรวจ ดังนี้
- หาก นายทักษิณ มีอาการป่วยหนักตามที่แถลงจริง ควรได้รับการรักษาในห้องผู้ป่วย ICU เท่านั้น ไม่ใช่อยู่ในห้องรับรองพิเศษทันทีที่รับเข้ามาจากโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ แล้วไม่สมเหตุสมผลกับอาการของผู้ป่วย
- โรงพยาบาลตำรวจเป็นเพียงสถานรักษาพยาบาลชั่วคราวแทนโรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ ในกรณีที่นักโทษป่วยหนักเท่านั้น และเมื่อได้รับตัวนักโทษมาแล้ว ควรเร่งทำการรักษาตามมาตรฐานทางการแพทย์ ให้กลับมาอยู่ในเกณฑ์ปกติโดยเร็ว และส่งกลับไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลกรมราชทัณฑ์ต่อไป
- การจัดให้ นายทักษิณ พักในห้องรับรองพิเศษ ซึ่งปกติเป็นห้องรับรองของข้าราชการตำรวจระดับผู้บัญชาการใช้เท่านั้น จึงมองว่าไม่สมควรอย่างยิ่ง แม้นายทักษิณจะเคยเป็นนายกรัฐมนตรี แต่ตอนนี้ถูกพิพากษาให้เป็นนักโทษเด็ดขาด แต่กลับได้อยู่ในห้องรับรองพิเศษ จึงมองว่าเป็นการได้รับสิทธิพิเศษเหนือนักโทษทั่วไป
- การจัดคิวให้เยี่ยมญาติในวันที่ 28 สิงหาคม เป็นหน้าที่โดยตรงของกรมราชทัณฑ์ไม่ใช่อำนาจของโรงพยาบาลตำรวจ