“บิ๊กโจ๊ก”พบตำรวจเกี่ยวข้องคดียิง”สารวัตรแบงก์”ทั้งทำลายหลักฐาน พาผู้ต้องหาหนี ทิ้งที่เกิดเหตุ ส่วนคนสั่งยิงคือ”กำนันนก”จ่อขยายผลขุดรากถอนโคน
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยความคืบหน้าการสืบสวนขยายผลคดียิงพันตำรวจตรีศิวกร สายบัว หรือสารวัตรแบงค์ สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 2 กองบังคับการตำรวจทางหลวง เสียชีวิต
โดยมีตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง 25 นาย ระบุว่า คดีมีความคืบหน้าไปมากหลังจากที่ชุดทำงานได้ขอหมายศาลเข้าตรวจค้นจุดเกิดเหตุ คือ บ้าน “ กำนันนก “ รวมถึงออฟฟิศต่างๆ ซึ่งก็ทำให้สามารถแยกกลุ่มตำรวจที่เข้าไปเกี่ยวข้องได้ 3 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มที่ถอดเซิร์ฟเวอร์กล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุ กลุ่มที่ให้การช่วยเหลือพาคนร้ายหลบหนี และกลุ่มที่หลังเกิดเหตุได้หนีออกจากพื้นที่ทันที
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ บอกว่า วันนี้ได้สั่งการให้ชุดทำงานเรียกตำรวจทั้ง 25 นาย มาสอบปากคำอย่างละเอียด ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพื่อดูว่าสอดคล้องกันกับพยานหลักฐานที่ได้มาก่อนหน้านี้หรือไม่ ซึ่งใครจะโกหกอย่างไรก็คงไม่มีประโยชน์ เพราะพยานหลักฐานค่อนข้างที่จะครบถ้วนแล้ว
ดังนั้นภายหลังการสอบปากคำตำรวจที่เกี่ยวข้องทั้ง 25 นาย แล้ว ก็จะพบว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องมากน้อยอย่างไร โดยหากเกี่ยวข้องมากกรณีช่วยเหลือพาผู้ต้องหาหลบหนี หรือ ทำลายพยานหลักฐาน ก็จะมีการขอศาลออกหมายจับทันที
สำหรับคดีการเสียชีวิตของสารวัตรศิวกร จะเเบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของสำนวนคดีหลัก ที่เป็นความรับผิดชอบของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และส่วนของการขยายผลกรณีการช่วยเหลือผู้ต้องหา การทำลายพยานหลักฐาน และการละทิ้งที่เกิดเหตุ หรือ การไม่ทำหน้าที่ ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตรงนี้จะมีการสอบสวนให้สิ้นกระแสความภายในวันนี้ ก่อนจะดำเนินการขอศาลออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้อง
ขณะที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ บอกด้วยว่า จากกาเร่งสอบปากคำพยานเมื่อวานนี้ ในประเด็นผู้สั่งหาร หรือ คนสั่งยิง พันตำรวจตรีศิวกร ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่า บุคคลนั้น คือ “ กำนันนก “ แต่ในกระบวนการทางกฎหมาย ตราบใดที่ศาลยังไม่มีคำพิพากษาก็ยังถือเป็นผู้บริสุทธิ์ ซึ่งก็เป็นหน้าที่ของตำรวจในการที่จะรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเสนอต่อศาลในการพิจารณาคดี
พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ บอกว่า คดีนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนเพราะตัวผู้ต้องหา รวมถึงพยานหลักฐานค่อนข้างนิ่ง แต่สิ่งสำคัญที่กำลังดำเนินการคือเรื่องของการขยายผลเครือข่ายของ “ กำนันนก “ เพื่อขุดรากถอนโคนให้สิ้นซาก พร้อมกันนี้พลตำรวจตรีสุรเชษฐ์ ยังพูดทิ้งได้ด้วยว่า สรุปแล้วคดีนี้ที่ผู้ต้องหาหลบหนีออกจากพื้นที่ได้ เพราะมีการช่วยเหลือและละทิ้งที่เกิดเหตุ คือไม่ได้ทำหน้าที่ตำรวจและแถมยังไปช่วยเหลือผู้ต้องหาอีก.