ฌอน บูรณะหิรัญ อดีตไลฟ์โค้ชอายุน้อย สู่มหากาพย์ โกงเงินบริจาคดับไฟป่าเชียงใหม่ หลังร่วมปลูกต้นไม้ถ่ายภาพคู่ ชื่นชม “บิ๊กป้อม”
วันที่ 18 ก.ย.66 มีรายงานว่า ฌอน บูรณะหิรัญ ถูกอัยการศาลนนทบุรีสั่งฟ้อง เป็นผู้ต้องหา ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน จ่ายเงินที่เรี่ยไรได้มานั้นในกิจการอย่างอื่นนอกวัตถุประสงค์แห่งการเรี่ยไรตามที่ได้แสดงไว้ พร้อมทั้งนัดสืบพยานในวันที่ 10 ตุลาคม 2566
ไทม์ไลน์คดี ฌอน บูรณะหิรัญ
จากคดีดังกล่าวที่ศาลสั่งฟ้อง สืบเนื่องมาจากในช่วงเดือน มิถุนายน 2563 ฌอน บูรณะหิรัญ ขณะนั้นเป็นไลฟ์โค้ชชื่อดังดีกรีนักเรียนนอก มีผู้ติดตามบนเฟซบุ๊กสูงถึง 4 ล้านคน ใน Youtube มีคนติดตาม 1.4 ล้านคน นอกจากนั้นยังมีเว็บไซต์ของ
25 มิ.ย. 63
ยอดผู้ติดตามของ ฌอน บูรณะหิรัญ ลดลงอย่างต่อเนื่องเหตุมองว่าฌอนสนับสนุนเผด็จการทหาร ภายหลังปล่อยคอนเทนต์ ร่วมโครงการ Climate Festival @North กิจกรรมปลูกต้นไม้ลดปัญหาโลกร้อนในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และมีโอกาสได้เจอ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ จึงได้ทำคลิปชื่นชม ขณะที่โลกออนไลน์ขณะนั้นมองว่า “บิ๊กป้อม” เป็นหนึ่งในรัฐบาลรัฐประหาร ที่มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี
หลังจากนั้นชื่อของเขาติดเทรนด์บนโลกออนไลน์ชื่อของเขาขึ้นอยู่เป็นอันดับหนึ่งของการค้นหา แถมยังถูกขุดไปถึงเดือน มี.ค. 2563 ซึ่ง ฌอน บูรณะหิรัญ ได้เปิดรับบริจาคผ่านบัญชีส่วนตัว เพื่อรวบรวมเงินไปช่วยเหลือและสนับสนุนเจ้าหน้าที่ชุดดับไฟป่าที่เขีงใหม่และผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ในครั้งนี้
27 มิ.ย. 63
ทีมดับไฟป่าเชียงใหม่ ส่งจดหมายถึง เพจเฟซบุ๊ก “แหม่มโพธิ์ดำ” ทวงถามถึงเงินช่วยเหลือที่ ฌอน เปิดรับบริจาค ว่าหายไปไหนเนื่องจากในตอนนั้นไม่มีการแสดงยอดเงิน หรือเปิดเผยยอดบริจาคเลย และไม่เคยได้รับสิ่งของอะไรจากฌอนเลย
30 มิ.ย. 63
มีรายงานว่า โลกออนไลน์จับพิรุธ เพจเฟซบุ๊กผู้ติดตามมากกว่า 4 ล้านคน แต่บอดบริจาคเพียงกว่า 8 แสนบาท มากกว่า 4 ล้านคน แต่บอดบริจาคเพียงกว่า 8 แสนบาท รวมทั้งมีการนำเงินบริจาคไปใช้ในการโฆษณาบนเฟซบุ๊กอีกกว่า 2.5 แสนบาท โดยที่ไม่มีการสอบถามความคิดเห็นของผู้บริจาคก่อน ซึ่งถือว่านำเงินมาใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือไม่
7 ก.ค. 63
ฌอน ออกมาเคลื่อนไหวพร้อมชี้แจงถึงยอดบริจาคไฟไหม้ป่าเชียงใหม่ที่หายไป โดยอ้างว่า เกิดจากความไม่รอบคอบในการชี้แจงยอดของตน พร้อมทั้งอ้างว่า
ยอดบริจาค 875,741.53 บาท แต่ที่จริงยอดนั้นคือยอดที่ได้ใช้ไปโดยรวมจากใบเสร็จในขณะนั้น (มีการใช้คำผิด) ภายหลังเมื่อตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนก็พบว่ามียอดที่ใช้ไปตามใบเสร็จทั้งสิ้น 991,541.36 บาท และในบัญชีนี้มีเงินเข้ามาในช่วงเวลาที่รับบริจาคทั้งสิ้น เป็นเงิน 1,338,644.01 บาท
21 ก.ค. 63
ฌอน บูรณะหิรัญ เข้าพบตำรวจ สน.ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี แจงปมเงินบริจาค หลังโดนทนายดังแจ้งความจับ พร้อมยืนยันว่าตนเองนั้นเป็นผู้บริสุทธิ์
14 พ.ค. 64
ฌอน หอบหลักฐานการเงินเข้าให้ปากคำ แจงปมกรณีเงินบริจาค ตอนนี้เหลือ 2 แสนบาท ทั้งนี้ในวันดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตั้งข้อหาคือติดตาม พ.ร.บ เรี่ยไรโดยไม่มีใบอนุญาต และจะนำไปสู่คดีฉ้อโกง ก่อนพนักงานสอบสวนพิจารณาว่าจะส่งฟ้องหรือไม่ฟ้อง หลังจากที่ให้ปากคำเสร็จ ทางเจ้าหน้ามี่ตำรวจจะสรุปสำนวนต่างๆ และปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาเพราะมีพยานหลักฐานครบถ้วน
18 ก.ย. 66
ล่าสุด ฌอน บูรณะหิรัญ ถูกอัยการศาลนนทบุรีสั่งฟ้อง เป็นผู้ต้องหา ในข้อหา ฉ้อโกงประชาชน และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ พร้อมทั้งเรียกสอบพยานในวันที่ 10 ตุลาคม 2566
ทั้งนี้ อัยการจังหวัดนนทบุรี ยืนยันว่า อัยการได้มีความเห็นสั่งฟ้องไปนานแล้ว แต่ที่เพิ่งเป็นข่าว เข้าใจว่าเป็นเพราะพยานเพิ่งได้รับหมายนัดสืบพยาน