ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 26 ก.ย. ที่เป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของปีงบประมาณ 2566 ครม.ได้มีการอนุมัติงบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือจำเป็นเร่งด่วนปีงบประมาณ 2566 เป็นวงเงินรวม 3,356 ล้านบาท ให้กับหลายหน่วยงานราชการ
นายเฉลิมพล เพ็ญสูตร ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และข้อกฎหมาย ที่หน่วยงานราชการต้องเสนอของบ ในส่วนที่เป็นงบกลางของโครงการที่มีขนาดเกินกว่า 100 ล้านบาทขึ้นไป ให้ ครม.พิจารณาตามขั้นตอนตามกฎหมาย อาทิ 1.อนุมัติวงเงิน 1,024.41 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายเงินอุดหนุนตามมาตรการสนับสนุน การใช้ยานยนต์ไฟฟ้า ประเภทรถยนต์และรถจักรยานยนต์เพิ่มเติมตามที่กระทรวงการคลังเสนอ 2.อนุมัติวงเงิน 1,034.9 ล้านบาท เป็นเงินอุดหนุนเกษตรกร ของโครงการส่งเสริมการผลิตข้าวอินทรีย์ ปี 2564 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ 3.อนุมัติวงเงิน 541.09 ล้านบาท ให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย แยกเป็นเงินอุดหนุนการสงเคราะห์เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ 518.71 ล้านบาท เงินอุดหนุนการสงเคราะห์เบี้ยยังชีพความพิการ 22.37 ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
4.อนุมัติวงเงิน 397.12 ล้านบาท สำหรับสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาล จนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน งบเงินอุดหนุน รายการค่าจัดการเรียนการสอน (ปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจน) ภาคเรียนที่ 1/2566 (กลุ่มใหม่) ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ 5.อนุมัติวงเงิน 346.72 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าตอบแทนรายเดือน แก่เจ้าหน้าที่การศึกษาพระปริยัติธรรม (จศป.) 3,320 อัตรา ตามที่สำนักงานพระพุทธ ศาสนาแห่งชาติเสนอ.