“ภูมิธรรม” จ่อชงนายกฯลงนามตั้งคณะ กก.ศึกษาประชามติสัปดาห์นี้ ปลื้มทุกพรรคส่งคนร่วมวง ดึงกุนซือนายกฯ ตัวแทนตำรวจ ทหาร อัยการร่วมทีม “เจ๊หน่อย” แขวะ รบ.จริงใจไม่ต้องตั้ง กก.ยื้อเวลามีร่าง รธน.ฉบับ ทสท.ค้างสภาฯต่อยอดตั้ง ส.ส.ร. ไร้ความขัดแย้ง ไม่ต้องเสียเงิน เปลืองเวลาถามประชาชน คนเพื่อไทยแห่อวย “อุ๊งอิ๊ง” นั่งหัวหน้าพรรค “เกรียง” ยกทายาทสายตรงนำทัพทวงคืนพรรคอันดับ 1 “อนุสรณ์” ชูสเปกสูงเหมาะที่สุดกับการเมืองยุคดิจิทัล “ชัยธวัช” งดโต้ครหาก้าวไกลการละคร ท้าพิสูจน์ศักดิ์ศรีพรรคด้วยผลงาน 3 ต.ค. เคาะแบ่งเค้ก กมธ.ของพรรค “ณัฐวุฒิ” เมินไม่รับประธาน กมธ.-ประธานวิปฝ่ายค้าน ขอลุยงานเด็กเยาวชน สตรีตามถนัด “หมอพรทิพย์” ขอใช้ธรรมะจัดการแทนกฎหมาย รับพลาดนอนทับลาวามอสไม่ศึกษาระเบียบให้ชัด “ต๋อม” จี้แก้กติกา สว.ต้องเคารพเสียง ปชช.
จากกรณีรัฐบาลพรรคเพื่อไทยได้ตั้งคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ยังคงถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าเป็นความพยายามยื้อเวลา และต้องการหลีกเลี่ยงกระแสกดดันให้รัฐบาลยุบสภาฯ คืนอำนาจให้ประชาชนทันทีที่ร่างรัฐธรรมนูญเสร็จ
“อ้วน” โอ่ได้ทุกพรรคนั่ง กก.ประชามติ
เมื่อวันที่ 1 ต.ค.นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ในฐานะประธานคณะกรรมการศึกษาแนวทางการทำประชามติ กล่าวถึงความคืบหน้าของการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า ขณะนี้ได้ประสานบุคคลที่จะมาเข้าร่วมในคณะกรรมการ เกือบครบทั้ง 30 คนแล้ว โดยจะได้นำรายชื่อทั้งหมดเสนอนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และ รมว.คลังเพื่อพิจารณาต่อไป โดยจะเป็นตัวแทนจากทุกภาคส่วนมาเข้าร่วม อาทิ นายชูศักดิ์ ศิรินิล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย เป็นรองประธานกรรมการคนที่ 1 นายกิตติพงษ์ กิตยารักษ์ อดีตปลัดกระทรวงยุติธรรม เป็นรองประธานกรรมการคนที่ 2 นายนิกร จำนง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา เป็นกรรมการและโฆษกคณะ นายนพดล ปัทมะ น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ จากพรรคเพื่อไทย นายศุภชัย ใจสมุทร จากพรรคภูมิใจไทย นายไพบูลย์ นิติตะวัน จากพรรคพลังประชารัฐ นายธนกร วังบุญคงชนะ จากพรรครวมไทยสร้างชาติ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม จากพรรคประชาชาติ นายวิรัตน์ วรศสิริน จากพรรคเสรีรวมไทย นายเดชอิศม์ ขาวทอง จากพรรคประชาธิปัตย์ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ จากพรรคไทยสร้างไทย ขณะที่พรรคก้าวไกลได้ตอบรับเข้าร่วมแล้วเช่นกัน แต่ยังไม่ส่งรายชื่อตัวแทนเข้ามา
ทหาร-ตร.ที่ปรึกษานายกฯร่วมทีม
นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังมีนายพิชิต ชื่นบาน เป็นตัวแทนที่ปรึกษาของนายกฯ พล.อ.ชัชวาล ขำเกษม เป็นตัวแทนทหาร พล.ต.อ.วินัย ทองสอง อดีตรอง ผบ.ตร.เป็นตัวแทนตำรวจ นายชาติพงษ์ จีระพันธุ อดีตรองอัยการสูงสุด เป็นตัวแทนอัยการ ในส่วนของตัวแทนผู้ทรงคุณวุฒิ ประกอบด้วย นางสิริพรรณ นกสวน สวัสดี นายพรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย นายพงษ์เทพ เทพกาญจนา นายยุทธพร อิสรชัย นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ปลัดสำนักนายกฯ เป็นกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการ นายนพดล เภรีฤกษ์ รองเลขาธิการกฤษฎีกา นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองเลขาธิการนายกฯ เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ อย่างไรก็ตาม ในระหว่างการประชุมก็จะเชิญภาคส่วนอื่นๆ อย่างภาคธุรกิจ เช่น หอการค้า สภาอุตสาหกรรม ตัวแทนเกษตรกร ตัวแทนภาคสังคม เช่น กลุ่มสตรี ผู้สูงอายุ นักเรียน นักศึกษา ตัวแทนสื่อมวลชน เช่น สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ สมาคมผู้สื่อข่าว เป็นต้น มาให้ความเห็นเพิ่มเติมระหว่างการประชุมด้วย
30 อรหันต์ลุ้นคลอดสัปดาห์นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า คณะกรรมการการศึกษาแนวทางการทำประชามติ ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.คลัง เป็นประธาน ขณะนี้ได้ประสานบุคคลเข้าร่วมที่เป็นตัวแทนจากทุกภาคส่วนได้ 99% แล้ว คาดในสัปดาห์นี้เมื่อได้รายชื่อครบ 100% เตรียมนำรายชื่อทั้งหมดเสนอต่อนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง เพื่อพิจารณาต่อไป
“สุดารัตน์” แซะ รบ.จริงใจไม่ต้องตั้ง กก.
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย (ทสท.) กล่าวถึงการเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาลว่า ไม่มีความชัดเจนมาตั้งแต่ต้นและใช้เวลานานมาก ทั้งที่ตอนเป็นฝ่ายค้านต้องการแก้ไขตั้งแต่หมวด 3 เป็นต้นไป รวมถึงการแก้รายประเด็นเพื่อตัดอำนาจ สว. ในการเลือกนายกฯ พรรคไทยสร้างไทยได้เสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญเข้าสู่สภาฯเรียบร้อยแล้ว ตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้ง ใจความสำคัญคือให้มีเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือ ส.ส.ร. เป็นผู้มาเขียนรัฐธรรมนูญ โดยไม่แก้หมวด 1 และ 2 เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้ง โดยมุ่งแก้ไขในส่วนที่กระทบถึงประชาชนและขจัดการสืบทอดอำนาจ
ร่าง ทสท.ปี 67 จบไม่เสียทั้งเงินกับเวลา
“ตรงนี้เราชัดเจน วิธีการของเราคือไม่ต้องไปทำประชามติถามประชาชนก่อน เพราะไม่ใช่เป็นการจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่ทั้งฉบับ ประชาชนเสียโอกาสมาหลายปีแล้ว ครั้งนี้ถ้าร่วมมือกัน จะแก้ไขได้เสร็จภายในปี 2567 นายโภคิน พลกุล แกนนำพรรคไทยสร้างไทย ถือว่าเป็นปรมาจารย์ด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ ท่านได้ร่างเอาไว้ สามารถทำได้ทันที จึงอยากแนะนำรัฐบาลว่าถ้าจริงใจให้ใช้วิธีนี้ ไม่ต้องเสียเงินไปทำประชามติก่อน และไม่เกิดความขัดแย้ง เพราะไม่ได้แก้หมวด 1 และ 2 อยากเรียกร้องให้รัฐบาลมีความจริงใจ อย่าไปซื้อเวลาด้วยการตั้งคณะกรรมการ ไม่มีประโยชน์อะไรเลย มีแต่จะทำให้เสียเงินและยิ่งสร้างความขัดแย้ง” คุณหญิงสุดารัตน์กล่าว
“เกรียง” ยก “อิ๊ง” นำ พท.ทวงพรรคยืน 1
วันเดียวกัน นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์กรณีกระแสข่าว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยจะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยว่า มองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะ น.ส.แพทองธาร มีความเหมาะสม เป็นคนรุ่นใหม่ที่มีความรู้ความสามารถ เป็นลูกสาวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทยขึ้นมา เชื่อว่า น.ส.แพทองธารเป็นบุคคลที่คนในพรรคเพื่อไทยทุกคนไว้วางใจให้ขึ้นมานำพรรคมุ่งไปข้างหน้า เมื่อ น.ส.แพทองธารขึ้นมาเป็นหัวหน้าพรรคแล้ว จะเป็นแรงหนุนให้ สส. และสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคนมีพลังในการทำงาน ทำพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน อีกทั้งวันนี้พรรคเพื่อไทยมี สส.รุ่นใหม่ได้เข้ามาทำหน้าที่ในสภาฯ เป็นอย่างมาก การได้คนรุ่นใหม่มาเป็นหัวหน้าพรรคเช่นนี้ จะยิ่งสอดประสานการทำงานให้เป็นปึกแผ่น ทำให้พรรคเพื่อไทยเป็นที่ไว้วางใจของประชาชน และจะกลับมาเป็นพรรคอันดับหนึ่งได้แน่นอน
อวยสมควรสุดขึ้นแม่ทัพใหญ่
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และรองประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์เพาเวอร์แห่งชาติ จะได้รับการคัดเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ว่า เป็นเรื่องที่ถ้า น.ส.แพทองธารได้เป็นหัวหน้าพรรคจริง เชื่อมั่นสามารถถือธงนำพาพรรคไปสู่การเป็นสถาบันทางการเมือง เป็นที่พึ่งที่หวังของประชาชนได้ เพราะเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพ มีความรู้ความสามารถ เข้าใจบริบทการเมืองอย่างทะลุปรุโปร่ง เป็นบุคลากรทางการเมืองที่ทุกคนเชื่อมั่นไว้วางใจให้ขึ้นมานำพรรคเพื่อไทยพุ่งทะยานไปข้างหน้า เพิ่มแรงสนับสนุนให้ สส.และสมาชิกพรรคเพื่อไทยทุกคนมีพลังในการทำงาน ทั้งงานระดับชาติและระดับพื้นที่ช่วยเหลือประชาชนในทุกมิติ

สเปกสูงเหมาะการเมืองยุคดิจิทัล
นายอนุสรณ์กล่าวอีกว่า ส่วนการทำหน้าที่ในสภาฯ ที่มี สส.รุ่นใหม่ไฟแรงเข้ามาเติมเต็ม เมื่อได้หัวหน้าพรรคที่เป็นคนรุ่นใหม่ ยิ่งสอดประสานการทำงานให้เป็นปึกแผ่น สมศักดิ์ศรี ทำให้พรรคเพื่อไทยเป็นที่เชื่อมั่นไว้วางใจของประชาชนมากยิ่งขึ้น นำพาพรรคไปสู่ความสำเร็จกับภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่ ตรงสเปกการทำงานการเมืองในยุคดิจิทัล อีกทั้งยังถือเป็นดาวฤกษ์ มีแสงในตัวเอง ดังนั้นเหมาะสมด้วยประการทั้งปวงที่จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรคคนใหม่ ในยุคเศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม นำพาพรรคเพื่อไทยพุ่งทะยานไปข้างหน้า วางเป้าหมายการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่ประเทศที่มีรายได้สูง
“นลินี” ดันไทยคืนบัลลังก์เจ้าสมุทร
นางนลินี ทวีสิน ผู้แทนการค้าไทยในฐานะกรรมการแก้ไขปัญหาการประมงทะเล เพื่อฟื้นฟูการประมงทะเลและอุตสาหกรรมประมง เปิดเผยว่า จากการประชุมคณะกรรมการฯครั้งที่ 1/2566 เมื่อวันที่ 29 ก.ย. มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.พณ. เป็นประธาน ได้ร่วมเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านต่างประเทศรับผิดชอบการเจรจากับต่างประเทศ หนึ่งในภารกิจสำคัญภายใต้คณะอนุกรรมการ 6 ด้านที่จะตั้งขึ้นมีเป้าหมายนำประเทศไทยกลับมาเป็นเจ้าสมุทรอีกครั้ง การเจรจาระหว่างประเทศตามนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ มุ่งไปที่การสร้างความร่วมมือกับคู่เจรจา เช่น การขอเปิดน่านน้ำอินโดนีเซีย และการลดอุปสรรคต่างๆ เช่น การบังคับติดตั้งวิทยุขาวดำบนเรือ เป็นต้น โดยการเจรจากับอินโดนีเซีย ที่ผ่านมาไทยเคยมีเรือประมงเข้าไปทำประมงในเขตน่านน้ำอินโดนีเซียกว่า 1,000 ลำ นำทรัพยากรกลับประเทศไทยปีละกว่า 600,000 ตัน คิดเป็นมูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท จากนั้นอินโดนีเซียปิดน่านน้ำไม่อนุญาตให้ต่างชาติเข้าไปทำประมงตั้งแต่ปี 2557 แต่ขณะนี้มีแนวโน้มจะเปิดน่านน้ำอีกครั้ง เราจึงต้องใช้โอกาสนี้เข้าไปเจรจาเพื่อร่วมมือกัน และต้องใช้เวทีการหารือระหว่างประเทศต่างๆให้เป็นประโยชน์ เช่น การประชุมระดับผู้นำ APEC 2023 ที่จะมีขึ้นในเดือน พ.ย. ที่นครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา
ลั่น รบ.เร่งสางปมเก่าช่วยชาวประมง
“แม้เราจะส่งออกสินค้าอาหารทะเลแปรรูปเป็นอันดับต้นๆของโลกและมีรายได้มากกว่าแสนล้านบาทต่อปี แต่ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมประมงได้รับผลกระทบจากกฎกติการะหว่างประเทศ เมื่อเรารับฟังปัญหาแล้วจึงต้องเร่งแก้ไข เพราะผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือชาวประมงและผู้ประกอบการ ทั้งประมงพื้นบ้าน ชายฝั่ง และพาณิชย์ เราพบว่าตัวเลขส่งออกสินค้าประมงลดลงและต้องนำเข้ามากขึ้น คนทำอาชีพประมงน้อยลง โรงงานขนาดเล็กต้องปิดตัว ทะเลหลวงเดินทางไม่สะดวก และยังมีคดีความที่เกี่ยวข้องกับการทำประมงอีกมากกว่า 1,000 คดี ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ สิ่งเหล่านี้รัฐบาลตั้งใจเข้ามาสะสางและช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด” นางนลินีกล่าว
“ท็อป” เหน็บ ก.ก.ผุดนวัตกรรมใหม่
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาฯออกจากพรรค เพื่อคงสถานะตำแหน่งรองประธานสภาฯต่อไป จนเกิดเสียงวิจารณ์เป็นแท็กติกการเมืองว่า นายปดิพัทธ์ยังต้องหาพรรคสังกัดอยู่ได้ภายใน 30 วันเพื่อคงสิทธิ์เป็น สส. การทำเช่นนี้ต้องการรักษาตำแหน่งรองประธานสภาฯและสถานะ สส.ตนอยู่กับการเมืองมาตั้งแต่เล็ก ต้องชมว่าเป็นแท็กติกที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมทางการเมือง ไม่รู้ใครเป็นคนคิด แต่เข้าใจคิดดีมากที่จะรักษาสถานะผู้นำฝ่ายค้านและรองประธานสภาฯไม่ขอออกความเห็นว่าดีหรือไม่ แต่ในทางกฎหมายแล้วไม่ใช่สิ่งที่ผิดกฎหมาย เป็นสิทธิ์แต่ละพรรคที่ดำเนินการ ส่วนความเหมาะสม การเมืองถ้าไม่ผิดกฎหมายอยู่ในวิสัยของสมาชิกแต่ละท่านที่ดำเนินการ

“ต๋อม” ไม่ตอบโต้ก้าวไกลการละคร
นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) กล่าวถึงกรณีนายอดิศร เพียงเกษ ประธานวิปรัฐบาล ระบุการขับนายปดิพัทธ์ สันติภาดา สส.พิษณุโลกและรองประธานสภาฯคนที่ 1 เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านจะเป็นทุกขลาภ เงาหัวของก้าวไกลถือว่าหายไม่สง่างาม ก้าวไกลลิเกหมอลำการละครว่า ไม่ว่าคำวิจารณ์จะมาจากพรรค พท.หรือพรรคใด เรายอมรับ ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าการตัดสินใจนี้ไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวของใคร ส่วนเหตุผลของพรรค แถลงชี้แจงรายละเอียดแล้วว่าพรรคจำเป็นต้องมีสถานะฝ่ายค้านโดยสมบูรณ์ตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้น จะมี สส.คนไหนไปเป็นรองประธานสภาฯไม่ได้ ตนและกรรมการบริหารพรรค ได้พูดคุยกับนายปดิพัทธ์แล้ว นายปดิพัทธ์ยังยืนยันตัดสินใจต้องการดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯคนที่ 1 ต่อไป เพื่อทำตามนโยบายที่ได้เคยพูดไว้ เราเคารพการตัดสินใจ ไม่มีทางเลือกนอกจากต้องมีมติให้นายปดิพัทธ์ พ้นสมาชิกพรรค ส่วนนายปดิพัทธ์ต้องพิสูจน์ตัวเองเช่นกันว่าจะปรับปรุงยกระดับการทำงานของสภาฯให้ดีขึ้น ตามที่ตั้งใจไว้หรือไม่ คำแถลงของพรรค ก.ก.อธิบายเหตุผลตรงไปตรงมาที่สุดแล้ว ตามนั้นเลย
จ่อเคาะแบ่งเค้ก ปธ.กมธ.ค่ายสีส้ม
นายชัยธวัชกล่าวอีกว่า ส่วนการคัดเลือกประธานคณะ กมธ.ในสัดส่วนของพรรค ก.ก.ยังอยู่ในขั้นตอนเปิดรับให้ สส.ที่มีความประสงค์แต่ละคณะ มานำเสนอเป้าหมาย แผนงาน วิสัยทัศน์และสุดท้ายจะมีการเลือกกันในที่ประชุม สส.พรรควันที่ 3 ต.ค.โดยใช้เสียง สส.กึ่งหนึ่งในการลงมติขั้นตอนสุดท้าย อย่างไรก็ตามทราบมาว่ารัฐบาลจะกำหนดให้เสนอรายชื่อ กมธ.กันวันที่ 4 ต.ค. และทราบมาว่าจะมีการเสนอให้แก้ไขข้อบังคับเกี่ยวกับชื่อและภารกิจของ กมธ.บางชุดด้วย เพื่อปรับให้สอดคล้องกับการทำงานที่มีประโยชน์มากกว่า เพราะบางชุดซ้ำซ้อนแล้วมีภารกิจที่ซ้ำกัน ส่วนกรณีนายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค ก.ก. โพสต์ตัดพ้อเรื่องการทำงานว่าพูดคุยกับนายณัฐวุฒิแล้ว ยืนยันยังทำงานกับพรรคต่อเเน่นอน เราคุยกันหลายเรื่อง รวมถึงเรื่องทั่วไปที่อยู่ในความรับผิดชอบ นายณัฐวุฒิไม่ได้มีปัญหาขนาดนั้น อาจกังวลกันไปไกลเกินไป เราพูดคุยกันเเล้ว นายณัฐวุฒิประสงค์จะทำงานกับพรรคต่อภารกิจเรื่องเด็กเรื่องสวัสดิการสังคมสตรี สมัยที่แล้วอาจยังไม่ได้ทำงานเต็มที่ เพราะรับภารกิจหลายอย่าง
“ณัฐวุฒิ” ไม่รับตำแหน่ง ปธ.กมธ.
นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าคัดเลือก สส.ไปนั่งเป็นประธานคณะกรรมาธิการสามัญ (กมธ.) ตามโควตาที่ได้รับมา 11 คณะจากทั้งหมด 35 คณะว่า ยังอยู่ระหว่างกระบวนการตามที่นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ ประธานกิจการสภาของพรรค ก.ก.และว่าที่ประธานวิปฝ่ายค้านระบุไว้ โดยเปิดให้ผู้สนใจไม่มีข้อจำกัด เป็น สส.สมัยแรก ไม่ได้มีตำแหน่งบริหารในพรรคก็ได้ ทุกคนยื่นความจำนงได้ แต่ต้องเลือกเพียง 1 คณะที่ถนัด สนใจ สามารถเสนอแผนการทำงานผ่านวิสัยทัศน์และแผนรายปี ตั้งแต่ปีที่ 1-4 ว่าจะทำอะไรบ้าง ให้กับกรรมการกิจการสภาของพรรคดำเนินการตามกระบวนการ จากนั้นนำเรื่อง เข้าสู่ที่ประชุม สส.พรรคพิจารณา ทุกอย่างลงตัวหลังการประชุม สส.ในสัปดาห์นี้ และเดินหน้าเข้าสู่โหมดเสนอชื่อในสภาฯต่อไป ส่วนตนไม่ได้ลงสมัครตำแหน่งประธานคณะ กมธ. เพราะภารกิจในพรรคมีหลายเรื่อง ทั้งที่เกี่ยวข้องกับวินัย จรรยาบรรณพรรค กฎหมายและงานในสภาฯ เปิดให้ท่านอื่นที่มีความถนัด มีความรู้ความสามารถ
ปฏิเสธเก้าอี้ ปธ.วิปฝ่ายค้าน
นายณัฐวุฒิกล่าวอีกว่า ส่วนตำแหน่งประธานวิปฝ่ายค้าน เเม้ปฏิเสธไม่ได้รับ แต่ต้องเรียนตรงๆว่าถือว่าเป็นพี่ใหญ่ที่ยังต้องคอยดูแล ประคับประคองการทำหน้าที่ของเพื่อนสมาชิกอย่างเต็มที่ ประกอบกับในช่วงหลังมีภารกิจต้องรับผิดชอบขับเคลื่อนงานของพรรค ก.ก. ในพื้นที่ภาคกลางทั้งหมด จึงตัดสินใจเสนอตัวอยากเข้าไปทำงานในคณะ กมธ.ที่น่าจะมีความถนัดเกี่ยวกับเด็ก เยาวชน สตรีหรือสวัสดิการสังคม ท้ายที่สุดอยู่ที่กรรมการกิจการสภาของพรรคจะพิจารณา ใส่ชื่ออยู่ในคณะใด อยู่ในคณะใดพร้อมทำงานเต็มที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงสัปดาห์ก่อนนายณัฐวุฒิได้ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว ตัดพ้อเรื่องการทำงานในทำนองว่า “อยากทำงานที่ตนเองถนัดและอยากทำ แต่ในเมื่อไม่มีพื้นที่ให้ทำ คงต้องทบทวนตัวเองว่าทำผิดพลาดสิ่งใด” การทวีตดังกล่าว คาบเกี่ยวช่วงที่พรรค ก.ก.กำลังจัดสรรโควตาประธาน กมธ.ตามสัดส่วนที่ได้มาพอดี

“ราเมศ” แขวะนายกฯอย่าดีแต่พูดตีกิน
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและ รมว.คลัง ระบุถึงสนามบินสุวรรณภูมิที่ก่อสร้างสำเร็จในรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตรว่า นายกฯต้องไปดูที่มาที่ไปริเริ่มสร้างสนามบินสุวรรณภูมิว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องผลักดันพัฒนามาตั้งแต่ต้น ในรัฐบาลชวน หลีกภัย ขณะนั้นได้เริ่มต้นให้สนามบินสุวรรณภูมิเกิดขึ้น โดยอนุมัติงบฯ 120,000 ล้านบาท ดำเนินโครงการ โดยนายกฯขณะนั้นมองการเจริญเติบโตด้านการท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวทั่วโลกมาเมืองไทยมากขึ้น จำเป็นต้องขยายสร้างสนามบินรองรับนักท่องเที่ยวที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น อีกเหตุผลสำคัญคือสนามบินดอนเมืองไม่สามารถขยายได้แล้ว เป็นที่มาของการตั้งคณะกรรมการพิจารณาการก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่
ให้ข้อมูล ปชช.ต้องตรงไปตรงมา
นายราเมศกล่าวอีกว่า นายเศรษฐาต้องไม่ลืมประวัติศาสตร์เหล่านี้ อย่าพูดเพียงเพื่อตีกินหรือเอาใจนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ สิ่งหนึ่งที่เกิดขึ้นมีการตรวจสอบการทุจริตก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ เป็นอีกหนึ่งประวัติศาสตร์ที่มีความไม่โปร่งใสใช้จ่ายงบฯแผ่นดิน เชื่อว่านายเศรษฐาทราบดีว่าเกิดขึ้นสมัยรัฐบาลใด ไม่อยากให้นายกฯต้องมาฝืนใจ กินน้ำเห็นปลิง ในวันที่ 2 ต.ค.จะออกมาเปิดเผยสนามบินอีกแห่งที่นายกฯต้องตรงไปตรงมา ในการให้ข้อมูลกับประชาชน ไม่เช่นนั้นจะสับสนได้
“พรทิพย์” ขอใช้ธรรมะมากกว่า ก.ม.
ส่วนกรณี พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สว. ที่ไปท่องเที่ยวที่ประเทศไอซ์แลนด์ แล้วถูกชายไทย ใช้ชื่อเฟซบุ๊ก “Ari Alexander” ที่ใช้สัญลักษณ์พรรคก้าวไกล (ก.ก.) เป็นพื้นหลังเฟซบุ๊ก ตะโกนไล่ออกจากร้านอาหาร พร้อมถูกตามถล่มแพร่คลิปนอนทับบนลาวามอส เมื่อเวลา 08.00 น. พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สว. โพสต์ภาพขอบคุณพร้อมข้อความผ่านเพจ Porntip Rojanasunan ระบุว่า กลับถึงไทยแล้ว ขออนุญาตเรียนตามที่บอกไว้เรื่องทริปนี้ ส่วนเรื่องการถูกไล่ออกจากร้านอาหารที่ไอซ์แลนด์ ได้เป็นบททดสอบธรรมะในตน ทันทีที่ทราบว่าเขาเกลียดมากจนชี้หน้าด่า หมอกลับรู้สึกเฉยและมองไปข้างหลังและข้างหน้าของเขาที่จะเป็นเช่นไร ขอบคุณทุกกำลังใจ ทุกคำแนะนำ แต่ขออนุญาตเลือกที่จะใช้ธรรมะจัดการมากกว่าใช้กฎหมายจัดการ
รับพลาดนอนทับลาวามอส
“ส่วนเรื่องการถ่ายภาพบนลาวามอสถือเป็นความผิดพลาดที่ไม่ได้ศึกษากฎระเบียบให้ชัดเจน ในบริเวณที่ลงถ่ายไม่มีป้าย จึงทำไม่ถูกระเบียบ แจ้งมาเพื่อให้รู้ว่าหมอผิดพลาดเอง และแก้ไขทันทีที่ทราบทันที จึงลบออกตั้งแต่ยังไม่กลับมา แต่ไม่ทันสำหรับคนที่เกลียดชังนำไปขยายผล ขอบคุณอีกครั้ง” พญ.คุณหญิงพรทิพย์ระบุ
“ท็อป” ชี้หัวใจ ปชต.เคารพเห็นต่าง
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) กล่าวถึงเหตุการณ์ขับไล่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สว. ในประเทศไอซ์แลนด์ว่า ในสังคมประชาธิปไตยคำว่าประชาธิปไตย หัวใจคือการเคารพในความแตกต่างทางความคิด ถ้าหากว่าคุณคิดต่างกันแล้วนำความคิดนั้นไปบูลลี่หรือไปแสดงกิริยามารยาทอะไรแล้วแต่ที่ไม่เหมาะสมกับบุคคลอื่น ไม่ต่างอะไรกับเผด็จการเลย กรณีที่เกิดขึ้นเป็นผู้ประกอบกิจการร้านอาหารกับลูกค้า ในฐานะเป็นผู้ให้บริการควรมีจิตใจที่มีเซอร์วิสมายด์มากกว่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอยู่ในประเทศที่มีความเป็นประชาธิปไตยสูง ควรศึกษาแนวทางประชาธิปไตยของประเทศนั้น แล้วใช้เป็นแนวทางทำงานจะดีกว่า เมื่อเกิดเหตุขึ้นมาไม่ได้เป็นผลดีต่อใคร และไม่รู้ด้วยว่าจะมีมาตรการทางกฎหมายใดตามมาด้วยหรือไม่ การทำอะไรไม่ได้ยั้งคิด อาจสะใจแน่นอน คนเชียร์เยอะ คนเห็นต่างก็มาก แต่ที่สำคัญจะกระทบกับการประกอบอาชีพของบุคคลนั้น ขอแนะนำผ่านไปถึงทุกคน ที่จะมีความคิดแตกต่างทางการเมือง คิดได้แตกต่างได้ แต่หัวใจสำคัญคือการเคารพความคิดเห็นที่แตกต่างนั้น ไม่ไปบูลลี่กัน ไม่ว่าจะเป็นในโลกออนไลน์หรือโลกแห่งความเป็นจริง
“ชัยธวัช” ชี้สะท้อนแรงโกรธเกลียด สว.
นายชัยธวัช ตุลาธน หัวหน้าพรรคก้าวไกล (ก.ก.) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีชายคนหนึ่งขับไล่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจนสุนันท์ สว. ออกจากร้านอาหารในประเทศไอซ์แลนด์ว่า เรื่องนี้สะท้อนความรู้สึกโกรธของประชาชนจำนวนไม่น้อยที่มีต่อบทบาทของ สว.ในการเลือกนายกฯที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่ามีประชาชนไม่พอใจ เพราะรู้สึกว่าเสียงของประชาชนผ่านการเลือกตั้งไม่มีความหมาย นี่เป็นพื้นฐานที่เข้าใจได้ แยกเรื่องบทบาท สว.กับเรื่องนี้ไม่ออก เราต้องไม่พิจารณาแยกออกจากกัน แต่ไม่อยากเห็นการเลือกปฏิบัติจากความคิดที่แตกต่างกันในทางการเมืองทางออกคือต้องมีการแก้ไขกฎกติกาทางการเมือง เพื่อไม่ให้มีใครมาใช้อำนาจเหนือกว่าเสียงประชาชนได้ นี่คงเป็นทางออก
เตือน สว.ต้องตระหนักบทบาท
เมื่อถามว่า มีการแชร์ภาพชายคนไล่ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ เหมือนเป็นกองเชียร์แฟนคลับพรรค ก.ก. โดยนายสมชาย แสวงการ สว.จี้ให้เช็กให้ชัดว่าเป็นสมาชิกพรรค ก.ก.หรือไม่ ถ้าใช่ควรเอาออก พรรค ก.ก.จะตรวจสอบอย่างไรหรือไม่ นายชัยธวัชตอบว่า ผู้ที่เลือกพรรค ก.ก.มี 14 ล้านคน ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเหมือนกันหมด แต่แน่นอนปฏิเสธไม่ได้ว่าจุดร่วมคือประชาชนที่ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งและเลือกพรรค ก.ก.มาอันดับหนึ่งย่อมไม่พอใจเป็นธรรมดากับบทบาท สว. แม้ว่าเราจะไม่ได้สนับสนุนให้มีการเลือกปฏิบัติจากจุดยืนทางการเมือง แต่ สว.ต้องตระหนักว่าปฎิเสธไม่ได้ว่าเรื่องนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องความคิดเห็นต่างกันทางการเมือง แต่เป็นความไม่ไว้วางใจของประชาชนที่มีต่อบทบาทของ สว. ที่เขารู้สึกว่าไม่เคารพเสียงของพวกเขา
ชงแก้กติกาเคารพเสียง ปชช.
“คิดว่าต้องทบทวนกันทุกฝ่าย ปรากฏการณ์แบบนี้เเม้อาจจะไม่อยากเห็น แต่ไม่ใช่อยู่ดีๆมันจะเกิดขึ้น มันมีที่มาที่ไป ต้องไม่พิจารณาแยกจากกันอย่างที่บอกไป ไม่ว่าจะเป็นประชาชนฝั่งไหน เราไม่สนับสนุน แต่เรื่องนี้มันไม่ใช่แค่เรื่องการปฏิบัติต่อคนที่มีความคิดเห็นต่างทางการเมือง แต่มันเชื่อมโยงกับบทบาทของ สว. ที่ประชาชนจำนวนไม่น้อยเห็นว่าไม่เคารพเสียงของเขาผ่านการเลือกตั้ง เราไม่รู้ว่าเขาเป็นสมาชิกพรรคหรือเปล่า แม้เราจะไม่ได้สนับสนุน แต่เราต้องเข้าใจว่ามันมีเหตุผลเบื้องหลังอยู่ ดังนั้นเรื่องนี้ถ้าเราไม่ปรารถนาที่จะเห็นความขัดแย้งทางการเมืองแบบนี้ คิดว่าทางออกคือต้องออกแบบกฎกติกาที่ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่รู้สึกว่าเสียงของเขาได้รับความเคารพว่าเป็นประชาธิปไตยจริงๆ” หัวหน้าพรรค ก.ก.กล่าว
ทบ.ดับข่าวคำสั่งเด้งเจ้ากรมสรรพาวุธ
ช่วงเย็น พล.ต.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก กองทัพบกกล่าวว่า ตามที่มีสื่อมวลชนนำเสนอข่าวอ้างว่า เมื่อ 1 ต.ค. กองทัพบกได้มีคำสั่งเรื่องการปรับ ย้ายเจ้ากรมสรรพาวุธทหารบก ให้มาปฏิบัติงานในส่วน บังคับบัญชา เชื่อมโยงกับการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ กรณีเบิกจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิงของหน่วยทหารในพื้นที่สระบุรี ขอเรียนว่าขณะนี้กองทัพบกยังไม่ได้มีคำสั่งการใดๆในเรื่องการปรับตำแหน่งของเจ้ากรมสรรพาวุธทหารบกตามที่ปรากฏเป็นข่าว ขณะนี้ ผบ.ทบ. มีดำริ สั่งการแต่เพียงการให้หน่วยทหารนำกำลังพลและยุทโธปกรณ์เข้าช่วยเหลือประชาชนจากสถานการณ์อุทกภัยช่วงสุดสัปดาห์นี้เท่านั้น การนำเสนอโดยอ้างว่า เป็นแหล่งข่าว อาจสร้างความสับสนและส่งผลต่อผู้ที่ ถูกกล่าวถึง จึงขอให้ได้ระมัดระวังด้วย หากมีความคืบหน้ากระบวนการสอบสวนการตรวจสอบเรื่องน้ำมันเชื้อเพลิง ตามที่กองทัพบกเคยชี้แจงให้สังคมได้รับทราบไปแล้ว จะแจ้งให้สังคมและสื่อมวลชนได้รับทราบเป็นทางการต่อไป

“บิ๊กต่อ” สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์รั้วปทุมวัน
เมื่อเวลา 09.09 น. พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) เป็นประธานพิธีสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในบริเวณสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) และพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะรัชกาลที่ 4 เพื่อเสริมสร้างสิริมงคล เนื่องในโอกาสเข้ารับตำแหน่ง ผบ.ตร. คนที่ 14 พร้อมนางนิภาพรรณ สุขวิมล นายกสมาคมแม่บ้านตำรวจ ได้ร่วมพิธีบูชาศาลพระภูมิ พิธีบูชาพระนิรันตราย พิธีบูชาหลวงพ่อโสธร พิธีบูชาพระนารายณ์ พิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 พิธีถวายราชสักการะพระบรมรูปหล่อพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 และพิธีสักการะ พล.ต.อ.เผ่า ศรียานนท์ อดีตอธิบดีกรมตำรวจ โดยมีคณะผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ สตช.และสมาคมแม่บ้านตำรวจ ร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง
ผูู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ มีคติในการทำงานในฐานะ ผบ.ตร.คือ “เทิดทูน จงรักภักดี พัฒนางานตำรวจในทุกมิติ เป็นตำรวจของประชาชน มีมาตรฐานสากล ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ขวัญกำลังใจ ศักดิ์ศรี สวัสดิการ ผู้บังคับบัญชาต้องเป็นแบบอย่างที่ดี”
“อนุทิน” ชมงาน OTOP ซื้อทะลุเป้า
เมื่อเวลา 11.00 น. ที่อาคารชาเลนเจอร์ 2-3 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย พร้อมคุณสุภานัน นิราษิท ภริยา เยี่ยมชมและให้กำลังใจผู้ประกอบการ OTOP ในงาน OTOP Midyear 2023 พร้อมทักทาย ขอบคุณประชาชนที่มาเที่ยวชมงานด้วยความเป็นกันเอง โดยมีนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ดร.วันดี กุลชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ให้การต้อนรับและนำชม โดยนายอนุทินกล่าวว่า ตลอด 8 วันที่ผ่านมาประชาชนร่วมจับจ่ายใช้สอย อุดหนุนสินค้าชุมชนจนมียอดจำหน่ายสูงถึง 375 ล้านบาท ทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 300 ล้านบาท คาดปิดงานมียอดจำหน่ายไม่น้อยกว่า 400 ล้านบาท การจัดงานในครั้งนี้ เพื่อกระตุ้นให้คนไทยเชื่อมั่นสินค้าที่เกิดจากภูมิปัญญาประชาชน กล้าการันตีสินค้า OTOP นี้ดีกว่าสินค้าแบรนด์เนม ไม่มีอะไรประเสริฐไปกว่าคนไทยเราช่วยกัน เงินทองไม่รั่วไหล หมุนเวียนอยู่ภายใน ประเทศ ทั้งนี้ ระหว่างการเยี่ยมชมงาน นายอนุทิน ได้สาธิตตีขิม เป่าขลุ่ย บริเวณโซนศิลปิน OTOP ด้วย
คปท.จัดกิจกรรมเยี่ยม น.ช.ทักษิณ
เมื่อเวลา 15.00 น. นายนัสเซอร์ ยีหมะ และ นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ได้จัดกิจกรรมชุมนุมสาธารณะ “เยี่ยม น.ช.ทักษิณที่ รพ.ตำรวจ” มีการตั้งเต็นท์บนบาทวิถีฝั่งศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ตรงข้าม รพ.ตำรวจ ถนนพระราม 1 แขวงและเขต ปทุมวัน กทม. เชิญชวนมวลชนให้เข้าร่วมลงรายชื่อ และเขียนข้อความลงผืนผ้าเยี่ยม น.ช.ทักษิณ ชินวัตร ผู้ป่วย ที่รักษาตัวอยู่ที่ รพ.ตำรวจ มีผู้ร่วมกิจกรรมราว 50 คน เครือข่าย เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการกับ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ นายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ และ รมว.ยุติธรรม ฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เนื่องจากมองว่า ช่วยเหลือนักโทษชายให้ไม่ต้องรับโทษ จำคุกในเรือนจำตามหมายศาล
พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผบก.น.6 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ก.ย. แกนนำกลุ่มยื่นหนังสือแจ้งการชุมนุมสาธารณะต่อ สน.ปทุมวัน เบื้องต้นได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ปทุมวัน 1 หมู่ สน.บางรัก 1 หมู่ และเจ้าหน้าที่ อคฝ.หญิง จำนวนหนึ่งคอยสังเกตการณ์ ระหว่างทำ กิจกรรมเชื่อว่าไม่น่าจะมีความวุ่นวายใดๆ และเมื่อถึง เวลา 19.00 น. จะยุติกิจกรรมแยกย้ายกันไปตามที่ร้องขอ